Monthly Archive: พฤศจิกายน 2022

          เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายพชร พูลเจริญภักดี ประธานเครือข่ายธรรมาภิบาลไทย ประธานเครือข่ายชาวนาเพื่อการพาณิชย์ อตสาหกรรมและการท่องเที่ยวแห่งชาติ เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมี นายสมภาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับแทน

          ตามที่เครือค่ายธรรมาภิบาลได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษข้าราชการระดับสูงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นายหนึ่งที่ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หลังจากได้นำความลับทางราชการมาเผยแพร่ผ่านไลน์ และนำรถยนต์ในราชการไปใช้ในกิจการส่วนตัวที่มิใช่งานของทางราชการที่ จ.นครราชสีมา โดยไม่เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ การกระทำของข้าราชการรายนี้เป็นกระทำที่จงใจให้ราชการเกิดความเสียหาย เครือข่ายธรรมาภิบาลจึงได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)จำนวน 2 ครั้ง คือครั้งที่ 1 วันที่ 13 พ.ย.2565 กรณีการนำเอาข้อมูลชั้นความลับของทางราชการออกมาเปิดเผยต่อบุคคลภายนอกผ่านทางไลน์ และครั้งที่ 2 วันที่ 27 พ.ย.2565ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกรณีใช้รถของทางราชการไปใช้ส่วนตัว

          เครือข่ายธรรมาภิบาลจึงขอให้นายกรัฐมนตรีกรุณาพิจารณาโยกย้ายข้าราชการนายนี้ออกจากตำแหน่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ไปยุ่งเหยิงกับเอกสารหลักฐาน และพยานบุคคล ตลอดจนพยานแวดล้อม จนกว่าจะมีความชัดเจนในการสอบสวนของ บก.ปปป.และผลการสอบสวนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)

Credit : Dailynews

          เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2565 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)สนามบินน้ำ นนทบุรี นายพชร พูลเจริญภักดี ประธานเครือข่ายธรรมาภิบาลแห่งชาติ เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ให้ตรวจสอบพฤติการณ์ข้าราชการระดับ 10 นายหนึ่งของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประพฤติมิชอบ มีการนำความลับทางราชการออกมาเผยแพร่ และมีการส่งต่อทางแอพพลิเคชั่นไลน์ 
          นอกจากนี้ยังใช้ตำแหน่งหน้าที่สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องนำรถยนต์ของทางราชการไปขนคนที่ศูนย์ข้าวแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อกลั่นแกล้งผู้ใต้บังคับบัญชาบางนายที่ไม่พอใจ เหตุเกิดเมื่อ 16 มิ.ย.2565 โดยมีพยานบุคคลและเอกสารรายงานการใช้รถดังกล่าวมาให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบเพื่อดำเนินการเอาผิดข้าราชการนายนี้

          เบื้องต้น เลขาฯ ป.ป.ช.มอบหมายให้ น.ส.ฟารีดา มูหะหมัด นิติกรและผู้เชี่ยวชาญมาสอบสวนและตรวจสอบพยานหลักฐานรับเรื่องไว้เสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป

          ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เครือข่ายธรรมาภิบาล ได้นำเรื่องพฤติการณ์ข้าราชการคนดังกล่าวเข้าร้องต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ได้แจ้งความ บก.ปปป.กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จนถูกอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี และ อดีต ส.ว.รายหนึ่งมาร้องขอให้หยุดการตรวจสอบข้าราชการคนดังกล่าว โดยอ้างว่าท่านนายกฯ ขอร้องมา แต่เมื่อเครือข่ายธรรมภิบาลตรวจสอบแล้ว พบว่าไม่เป็นความจริง จึงเดินหน้าดำเนินการเอาผิดข้าราชการระดับ 10 คนนี้ต่อให้ถึงที่สุด

           นายพัชร เปิดเผยว่า ตนได้ไปกราบเรียนท่านนายกรัฐมนตรี ว่ามีข้าราชการ ระดับ 10 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์บางนายประพฤติมิชอบ มีการนำความลับทางราชการออกมาเผยแพร่ และมีการส่งต่อทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งเป็นการกระทำความผิดทั้ง มาตรา 157 มาตรา 161 มาตรา 322 และ 323 แล้ว ซึ่งตนได้นำกรณีดังกล่าวมาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ ผบก.ปปป.ดำเนินการเอาผิดไปเมื่อ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา

          ต่อมาได้พบเห็นการกระทำผิดของข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ คนดังกล่าวเพิ่ม โดยพบว่ามีการใช้ตำแหน่งหน้าที่เบียดบังเอาทรัพย์สินทางราชการไปใช้ส่วนตัว คือนำรถยนต์ของกระทรวงฯ ไปสนับสนุนเอกชนเป็นการกระทำโดยมิชอบเพราะมีการเบิกเงินหลวงเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงด้วย

           ซึ่งทางสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ตรวจสอบแล้ว ตนมาวันนี้จึงได้นำพยานหลักฐานมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ ผบก.ปปป.ตรวจสอบดำเนินการเอาผิดข้าราชการรายนี้เพิ่มอีก 1 สำนวน

          จากการนำเอาเรื่องประพฤติมิชอบข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ มาร้องทุกข์กล่าวโทษ จนตัวเองถูกกดดันโดยมีอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีรายหนึ่งกับอดีต สว.ท่านหนึ่งมาร้องขอให้หยุดการตรวจสอบข้าราชการระดับ 10 กระทรวงเกษตรฯ แอบอ้างว่าท่านนายกฯ ขอร้องมา ซึ่งตนตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง ซึ่งตนจะได้ดำเนินการเอาผิดต่อไปให้ถึงที่สุด

          เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้ต้อง รวบรวมเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อ